ด้วยกระแสโควิดที่กำลังเริ่มขยายอาณาเขตผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นทุกวัน ๆ จึงทำให้หลายบริษัทเริ่มให้พนักงาน Work from home เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดมากไปกว่านี้ หลาย ๆ คนจึงร้องเฮ้ด้วยความดีใจ เพราะจะได้ไม่ต้องเสียเวลาไปกับรถที่แน่นขนัดบนท้องถนน
แต่ก็ใช่ว่าทุกคนจะเอ็นจอยกับการWork from homeเนื่องจากอาจด้วยสภาพการทำงานที่ต้องติดต่อกับคนในทีมตลอดเวลาจึงทำให้ไม่ค่อยแฮปปี้เท่าไรนัก อีกทั้งการทำงานที่บ้านยังเพิ่มความเครียดแบบเงียบ ๆ โดยไม่รู้ตัวอีกด้วย วันนี้เราจึงได้นำ
5 เทคนิค Work from home อย่างไรไม่ให้ตึงเครียดเมื่อต้องอยู่บ้านนาน ๆ
จัดโต๊ะทำงานให้เป็นสัดส่วน
หนึ่งในเหตุผลที่หลาย ๆ คนไม่ชอบการWork from home เพราะไม่มีพื้นที่ทำงานเป็นสัดส่วนภายในบ้าน ดังนั้นก่อนที่บริษัทจะเริ่มมีมาตรการให้ทำงานที่บ้าน เราก็ใช้เวลานี้มาเตรียมโต๊ะทำงานกันเถอะ เพราะโต๊ะทำงานเป็นพื้นที่ ที่เราต้องใช้เวลาในการWork from homeมากที่สุด การจัดโต๊ะทำงานให้น่านั่ง ใช้งานได้ดี สบายตาจึงเอื้อให้เราเอ็นจอยในการทำงานมากขึ้น
เลือกอุปกรณ์การทำงานให้เหมาะสมกับสุขภาพ
เมื่อเราจัดพื้นที่ทำงานเสร็จเรียบร้อย สิ่งต่อมาที่ต้องคำนึงถึงคือการเลือกอุปกรณ์ และจัดระดับโต๊ะ โน้ตบุ๊ค และเก้าอี้ให้เหมาะสมแก่การนั่งทำงาน เพื่อป้องกันอาการปวดหลังหรือออฟฟิศซินโดรมที่อาจตามมาได้ หากใครต้องWork from home ระยะยาวและงบเพียงพอสามารถเลือกเก้าอี้ทำงานเพื่อสุขภาพมาไว้ติดบ้านได้จะดีทีเดียว
ทำความสะอาดอุปกรณ์ที่ใช้ทุกวัน
อุปกรณ์ที่เราใช้เป็นประจำหากสกปรกอาจทำให้เราเกิดอาการยี๋จนไม่อยากจับ ทำให้เรารู้สึกไม่เอ็นจอยกับการทำงานขึ้นได้ ดังนั้นเราจึงควรทำความอุปกรณ์อย่าง โต๊ะ เก้าอี้ โน้ตบุ๊ค เมาส์ หรือเครื่องใช้อื่น ๆ ทุกวัน เพื่อจะได้ลดการสะสมของคราบฝุ่น และเชื้อโรค
อย่าละเลยโภชนาการ
หลายคนบ่นอุบว่าเพราะWork from home จึงทำให้น้ำหนักตัวขึ้นพรวด ๆ เพราะไม่ได้ออกกำลังกายหรือขยับแข้งขยับขาเลย แต่ในมุมกลับกันเมื่อเราได้ทำงานที่บ้าน หมายความว่าเราจะได้เวลาเพิ่มคืนจากการไม่ต้องไปติดเหง็กอยู่บนถนน ทางที่ดีเราควรเอาเวลาตรงนั้นมาใส่ใจโภชนาการที่เราต้องทานในแต่ละวันให้มากขึ้น โดยอาจเริ่มฝึกทำอาหารคลีนง่าย ๆ ตามสูตรในยูทูบ ไม่แน่บางทีเมื่อจบมาตรการWork from home คุณอาจได้ทักษะที่สามารถนำไปหารายได้เสริมแบบไม่รู้ตัวเชียวนะ
ออกกำลังกายช่วยคลายเครียด
จากการศึกษาได้พบว่าเมื่อเราต้องWork from homeเป็นระยะเวลานานจะทำให้เราเกิดความเครียดสะสมขึ้นโดยไม่รู้ตัว เนื่องจากร่างกายไม่ได้ออกแรงมากเท่าที่ควร เราจึงควรหาเวลาว่างเพื่อออกกำลังกายลดความตึงเครียดที่อยู่ภายในตัวลงไป โดยเลือกออกกำลังกายที่ไม่ต้องใช้พื้นที่มากอย่างโยคะ บอดี้เวท หรือกระโดดเชือกก็ได้
สามารถกดติดตาม การดูแลสุขภาพ และการดูแลตัวเองอย่างไรให้ห่างไกลโควิค สุขภาพดีสร้างง่ายๆ ด้วย 3 กิจกรรมที่ไม่ยาก เพื่อป้องกันโรคโควิค
